เกมพนันไพ่ที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันทั่วโลก นั้นก็คือ แบล็คแจ็ค หรือที่รู้จักกันในชื่อ 21 แต้ม เป็นเกมพนันที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยสำหรับท่านสนใจจะเล่น แต่ไม่รู้ว่าเกมพนันไพ่ แบล็คแจ็ค เล่นยังไง ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค ไม่ว่าจะเป็น การนับแต้ม อัตราจ่ายแบล็คแจ็ค กติกาแบล็คแจ็ค และกฎที่ต้องรู้ในการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค
หากท่านได้อ่านบทความนี้ละก็ เราเชื่อเลยว่าถึงท่านจะไม่เคยเล่นเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คมาก่อน ท่านก็สามารถเล่นเป็นได้อย่างแน่นอน แต่หากท่านไหนที่เล่นเป็นแล้ว ต้องการจะเข้ามาเล่นเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ เกมไพ่ ebet ละก็ เราแนะนำให้เข้ามาเล่นกับเว็บ eBet ได้เลย เพียงแอดไลน์ไปได้ที่ @UFACAM ตลอด 24 ชั่วโมง
ประวัติความเป็นมาของเกมไพ่แบล็คแจ็ค
โดยก่อนเราจะไปรู้จักวิธีการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค เกมไพ่ ebet นั้น เราจะมากล่าวถึงประวัติของเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คกันก่อน ซึ่งเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คมีต้นกำเนิดที่ไม่แน่นอนเท่าไร และไม่ได้ปรากฏหลักฐานอะไรให้เห็นมากมาย
แต่ก็มีที่มาจากประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นเกมที่รู้จักกันในชื่อของ 21 แต้ม ทำไมต้องเป็น 21 แต้มนั้น ก็เพราะหากผู้เล่นท่านไหน สามารถทำ 21 แต้ม ได้ใน 2 ใบแรกก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะทันที ซึ่งดูเป็นเกมที่ดูน่าเล่นเลยใช่ไหมละ
นั้นจึงทำให้เกมพนันไพ่แบล็คแจ็ค ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และประเทศไทยของก็นิยมเล่นเช่นกัน ดังนั้นในหัวข้อ ๆ ไป เราจะมาแนะนำให้ท่านได้รู้จัก เกมไพ่แบล็คแจ็ค เกมไพ่ ebet มากยิ่งขึ้น
กติกา แบล็คแจ็ค เล่นยังไง ขั้นพื้นฐาน
อย่างที่หลาย ๆ ท่านได้รู้ว่าเกมพนันไพ่แบล็คแจ็ค จะต้องเล่นให้ได้ 21 แต้ม ถึงจะเป็นผู้ชนะ แน่นอนว่าหากไม่ได้ 21 แต้ม ก็จะต้องมาวัดกันที่แต้มกัน ซึ่งก็จะมี กติกาแบล็คแจ็ค ต่าง ๆ ที่เป็นตัวกำหนดเอาไว้ เพื่อให้สามารถเล่นเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คได้นั้นเอง ดังนั้นในหัวข้อนี้ เราจะมาแนะนำ กติกาแบล็คแจ็ค ขั้นพื้นฐานที่ท่านควรรู้เอาไว้
- แบล็คแจ็ค เป็นไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อเกมพนันไพ่เท่านั้น แต่จะใช้ในการเป็นชนะ คือ หากท่านสามารถทำ 21 แต้ม ได้ในการแจกไพ่ 2 ใบแรก ให้ท่านพูด “แบล็คแจ็ค” ทันที นั้นหมายความจะจบเกม และเป็นชนะทันที
- แพ้ทันที หากท่านมีไพ่เกิน 21 แต้ม ในกติกาของเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คแล้วนั้น ท่านจะเป็นผู้แพ้ทันที เนื่องจาก กติกาแบล็คแจ็ค กำหนดไว้ว่า ผู้เล่นจะต้องมีแต้มไม่เกิน 21 แต้มนั้นเอง
- หากแต้มของผู้เล่นและเจ้ามือเท่ากันแล้ว จะหมายความว่าเสมอกัน ซึ่งจะไม่มีผู้แพ้หรือชนะนั้นเอง
- J Q K จะนับแต้มเท่ากับ 10 แต้ม และ A จะนับแต้มเป็น 1 หรือ 11 และไพ่ที่เหลือจะนับแต้มตามหน้าไพ่ได้เลย
- ผู้เล่นที่มีไพ่แต้มน้อยกว่า 16 แต้มนั้น จำเป็นต้องขอไพ่เพิ่ม โดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ
คำศัพท์ที่ใช้ในการเดิมพันไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์
หากท่านจะ เล่นแบล็คแจ็ค แล้วนั้น ท่านจำเป็นจะต้องรู้จักคำศัพท์เอาไว้ เพื่อให้ท่านสามารถเล่นเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คได้ง่าย ๆ ดังนั้นจะมีคำศัพท์อะไรบ้าง
- BLACKJACK เป็นคำที่ใช้สำหรับผู้ชนะที่ได้ 21 แต้ม ในการแจกไพ่ 2 ใบแรก
- HIT จะใช้ในการเรียกไพ่เพิ่ม หากไพ่ของท่านยังมีแต่ไม่เกิน 21 แต้มนั้นเอง
- STAND ไม่ต้องการไพ่เพิ่ม หรือ ผ่าน
- SPLIT เป็นการแยกไพ่ออกเป็น 2 กอง ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นได้ไพ่ 2 ใบแรกเหมือนกัน โดยผู้เล่นจะต้องตัดสินใจว่าต้องการแยกหรือไม่
- INSURANCE จะเป็นการซื้อประกันในการได้ไพ่ 2 ใบแรก หากเจ้ามือได้ไพ่ A โดยการซื้อประกันนั้น จะได้อัตราจ่ายมากกว่าเดิมก็คือ แทง 1 จ่าย 2 แทง 2 จ่าย 3 นั้นเอง
- SURRENDER หมายถึง การที่ผู้เล่นยอมแพ้ตั้งแต่การจากไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น หลังจากนั้นจะไม่สามารถยอมแพ้ได้ ซึ่งการยอมแพ้จะได้รับเงินกลับมาคืนครึ่งเดียว
อัตราจ่ายเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ค่าย eBET
สำหรับการจ่ายเงินเกมพนัน ไพ่แบล็คแจ็ค ค่าย เกมไพ่ ebet นั้น ก็จะมี อัตราจ่ายแบล็คแจ็ค ในแบบต่าง ๆ ดังนั้นท่านก็จะเป็นจะต้องรู้เอาไว้เช่นกัน ซึ่งจะมีการจ่ายเงินแบบไหนบ้าง และอัตราจ่ายเท่าไร มาดูกัน
- BLACKJACK หรือ 21 แต้ม ท่านจะต้องได้แต้มทั้งหมด 21 แต้ม ในการแจกไพ่ 2 ใบแรก ซึ่งจะมี อัตราจ่ายแบล็คแจ็ค อยู่ที่ 3 เท่า
- เสมอ โดยหากท่านและเจ้ามือเสมอกัน ท่านจะไม่รับเงิน และไม่เสียเงิน
- การชนะปกติ หรือ ไม่ได้ BLACKJACK นั้น จะได้รับ อัตราจ่ายแบล็คแจ็ค อยู่ที่ 1 เท่า
- การซื้อประกันภัย จะได้รับ อัตราจ่ายแบล็คแจ็ค เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าซื้อที่เท่าไร โดยหากซื้อที่ 1 จะได้ 2 เท่า หรือ ซื้อ 2 จะได้ 3 เท่า
เคล็ดลับ แบล็คแจ็ค เล่นยังไง ให้ชนะเดิมพัน
โดยจุดหมายของการเล่นเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์นั้นก็คือ เล่นยังให้ได้ 21 แต้ม ซึ่งจะเป็นผู้ชนะทันที แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน โดยหากท่านอยาก เล่นแบล็คแจ็ค ให้ชนะเดิมพันแล้วนั้น ท่านควรจะต้องอ่านเกมให้เป็น อย่าสนใจแค่จะทำยังให้ได้ 21 แต้ม ต้องทำยังไงให้ได้ใกล้เคียง 21 แต้มมากกว่า
ซึ่งในจุดนี้ท่านจะต้องดูอ่านเกมเจ้ามือได้เลย หากเจ้ามือไม่ได้ 21 แต้ม เพียงแค่ท่านได้ใกล้เคียง 21 แต้ม โอกาสชนะก็มีสูงแน่นอน ยกตัวเช่น หากท่านได้แต้ม 18 แต้มแล้ว ท่านต้องประเมินว่าอีก 3 แต้ม โอกาสที่จะนั้นยากไหม เพราะหากได้ 4 แต้มมาก็จบทันที ดังนั้นหากคิดว่า 18 มีโอกาสชนะแล้ว ก็ควรจะพอนั้นเอง